นายสิรภพ พิชัยรัตนพงศ์เลขาธิการสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่าผู้ประกอบการธุรกิจขนส่ง เตรียมหารือติดตามสถานการณ์ราคาพลังงานมาอย่างต่อเนื่อง โดยหลังจากสิ้นสุดมาตรการอุดหนุนราคาน้ำมันดีเซลโดยใช้กลไกภาษีสรรพสามิตราคาน้ำมันดีเซล ขยับขึ้น 1 บาทต่อลิตร กระทบต่อต้นทุนการขนส่ง เพิ่มขึ้น 3% ทำให้ผู้ประกอบการขนส่งเริ่มส่งสัญญาณไปยังผู้ว่าจ้าง ว่าอาจจะมีการปรับขึ้นราคาค่าขนส่ง หากราคาน้ำมันดีเซลยังปรับเพิ่มขึ้นอีก
เลขาธิการสหพันธ์การขนส่งฯ ระบุว่า ผู้ประกอบการยอมรับได้หากราคาน้ำมันดีเซลขยับขึ้นเพียง 31 – 32 บาทต่อลิตร ทำให้ต้นทุนการขนส่งเพิ่มมา 6% ซึ่งผู้ประกอบการบางส่วนยังพอแบกภาระต้นทุนส่วนนี้ได้ แต่หากราคาน้ำมันดีเซลพุ่งขึ้นไปที่ 34-35 บาทต่อลิตร ก็อาจจะรับไม่ไหว ถึงตอนนั้นอาจจะต้องออกมาแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ เพื่อหารือผลกระทบ และขอความชัดเจนถึงแนวทางช่วยเหลือจากรัฐบาล
เต็มที่นะครับ เท่าที่เราคุยกันแล้ว 32 บาท เป็นลิมิตที่เราให้ขึ้นเต็มที่มากที่สุดก็คือ 32บาทครับ แต่ถ้าขึ้นไปถึง 34-35 บาทต่อลิตร เราก็ต้องมีกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์เรียกร้องรัฐบาลขอให้รัฐบาลช่วยพยุงราคาตรงนี้ต่อไปอีก 3 เดือน หรือ 6 เดือน นายสิรภพ กล่าว คำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
นายสิรภพระบุด้วยว่าอย่างน้อยในระยะสั้น อยากให้รัฐบาลหามาตรการ ที่ทำให้ราคาน้ำมันนิ่งสัก 3-6 เดือน เพื่อให้ผู้ประกอบการได้คำนวณต้นทุน และปรับตัวกับราคาพลังงานที่สูง ส่วนในระยะยาว อยากจะให้เร่งปรับโครงสร้างราคาพลังงานให้สอดคล้องกับความเป็นจริง เร่งสร้างเศรษฐกิจประเทศให้ดีขึ้น ผู้ประกอบการมีรายได้มากขึ้น ราคาค่าน้ำมันและราคาค่าขนส่งก็จะสามารถขยับขึ้นตามกันได้ตามกลไกของตลาด
สหพันธ์ขนส่ง ขีดเส้นตาย 7 วัน ขอพบนายกรัฐมนตรี
นายศุภศักดิ์ รุ่งเจิดฟ้า ที่ปรึกษาสมาคมขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย และสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้สมาคมฯ อยู่ระหว่างประสานส่งหนังสือขอเข้าพบนายกรัฐมนตรี หลังจากราคาน้ำมันดีเซลปรับขึ้นมากว่า 1 บาทแล้ว ส่งผลต่อธุรกิจขนส่งโดยตรง ซึ่งจากนี้จะรออีก 1 สัปดาห์ หากไม่มีการตอบรับขอเข้าพบ ทางสมาคมฯ จะหารือร่วมกันอีกครั้งว่าจะมีการกดดันอย่างไรต่อไปเพื่อแสดงออกถึงความเดือดร้อน
"พีระพันธุ์" ยันรื้อโครงสร้างพลังงาน ให้รัฐบาลกำหนดราคาเอง
ด้าน นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาครองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ระบุว่าราคาน้ำมันดีเซลที่ปรับเพิ่มขึ้น เป็นปัญหาที่ระบบและโครงสร้างปัจจุบัน ซึ่งตนเองได้พูดตั้งแต่วันแรกที่มาทำหน้าที่รัฐมนตรีพลังงานแล้วว่าไม่พอใจกับโครงสร้างนี้ จึงต้องแก้ไข แต่เดิมก่อนรัฐบาลชุดนี้ การรักษาระดับราคาน้ำมัน ใช้สองกลไก ทั้งการกำหนดเพดานภาษีสรรพสามิต ซึ่งเป็นอำนาจของคณะกรรมการเป็นคนกำหนด ไม่ใช่อำนาจของกระทรวงการคลัง แต่เมื่อกำหนดเพดานแล้วอำนาจในการเก็บภาษีสรรพสามิตเป็นของกระทรวงการคลัง
ส่วนกลไกที่ 2 เป็นการใช้เงินจากกองทุนน้ำมัน แต่เงื่อนไขกฎหมายปัจจุบันไปตัดอำนาจ การกำหนดเพดานออก ทำให้เหลืออำนาจในการใช้เงินกองทุน ที่ต้องแบกภาระ ทั้งที่ผ่านมาเป็นอำนาจของคณะกรรมการเป็นคนกำหนด ว่าควรจะปรับขึ้นหรือปรับลงภาษีสรรพสามิตเท่าไหร่ จึงกลายเป็นภาระของกองทุนน้ำมันที่ต้องใช้เงินอุดหนุนอย่างเดียว
นายพีระพันธุ์ ย้ำว่า ทั้งหมดต้องแก้ไขกฎหมาย ซึ่งตอนนี้ตัวเองกำลังร่างกฎหมายอยู่และไม่ต้องกลัวว่าจะร่างช้าเพราะตัวเองร่างเองกับมือ ซึ่งแนวทางที่ตัวเองวางไว้ก็คือ ให้รัฐบาลมีอำนาจในการกำหนดราคาน้ำมัน แต่กว่าจะถึงวันนั้นก็ต้องค่อยๆปรับเนื่องจากโครงสร้าง ที่เป็นอยู่แบบนี้นั้นเป็นมาแล้วกว่า 50 ปี ไม่เคยมีการเปลี่ยนแปลงเลย
"ชาบี" ตำหนิลา ลีกา น่าอายไม่มีโกลไลน์ หลังบาร์ซ่า พ่าย เรอัล มาดริด คำพูดจาก เว็บพนันออน
“บิ๊กโจ๊ก” ยื่นเอาผิดพนักงานสอบสวน-นายกฯ มั่นใจได้กลับมาแน่!