นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่าค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ (31 ส.ค.) ที่ระดับ 36.46 บาทต่อดอลลาร์“อ่อนค่าลง”จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ 36.38 บาทต่อดอลลาร์ โดยมองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 36.30-36.55 บาทต่อดอลลาร์
ทั้งนี้ รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐ ล่าสุด ทั้งดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (Conference Board Consumer Confidence) รวมถึงยอดตำแหน่งงานเปิดรับ (JOLTs Job Openings) ต่างออกมาดีกว่าที่ตลาดคาด ทำให้ผู้เล่นในตลาดการเงินสหรัฐ กังวลแนวโน้มเฟดอาจเร่งขึ้นดอกเบี้ยและยังคงเดินหน้าขายสินทรัพย์เสี่ยงต่อเนื่อง โดยเฉพาะสินทรัพย์เสี่ยงที่อ่อนไหวต่อการปรับตัวขึ้นของอัตราดอกเบี้ย/บอนด์ยีลด์ อย่าง หุ้นเทคฯ และหุ้นสไตล์ Growth (Tesla -2.5%, Apple -1.5%)
ทางด้านตลาดค่าเงิน เงินดอลลาร์พลิกกลับมาแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก โดยดัชนีเงินดอลลาร์ (DXY Index) ปรับตัวขึ้นใกล้ระดับ 108.75 จุด หนุนโดยรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐ ที่ออกมาดีกว่าคาด ทำให้ผู้เล่นในตลาดกังวลว่า เฟดอาจจำเป็นต้องเดินหน้าเร่งขึ้นดอกเบี้ย นอกจากนี้ เงินดอลลาร์ยังได้แรงหนุนจากความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยในจังหวะที่ตลาดการเงินอยู่ในภาวะปิดรับความเสี่ยง
ทั้งนี้ การแข็งค่าของเงินดอลลาร์ถูกชะลอลงด้วยการกลับมาแข็งค่าขึ้นเหนือระดับ 1.00 ดอลลาร์ ของเงินยูโร (EUR) หลังผู้เล่นในตลาดประเมินว่า ECB อาจเดินหน้าเร่งขึ้นดอกเบี้ยรุนแรง ทั้งนี้ แม้ตลาดจะปิดรับความเสี่ยง แต่แนวโน้มการเร่งขึ้นดอกเบี้ยของเฟดและการแข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์ยังคงกดดันให้ราคาทองคำปรับตัวลดลงสู่ระดับ 1,735 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งอาจเป็นโซนแนวรับที่ผู้เล่นบางส่วนจะเริ่มกลับมาซื้อทองคำในจังหวะย่อตัวได้
สำหรับวันนี้ ตลาดจะรอติดตามแนวโน้มเศรษฐกิจจีนผ่านรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตอุตสาหกรรมและภาคการบริการ (Official Manufacturing & Non-Manufacturing PMIs) ในเดือนสิงหาคม โดยตลาดประเมินว่า สารพัดปัญหาที่รุมเร้าการฟื้นตัวเศรษฐกิจจีน อาทิ ปัญหาหนี้ภาคอสังหาฯ วิกฤติภัยแล้ง รวมถึงการระบาดของ COVID-19 จะกดดันให้ภาคการผลิตอุตสาหกรรมของจีนอาจหดตัวต่อเนื่อง สะท้อนจากดัชนี PMI ภาคการผลิตในเดือนสิงหาคมที่จะลดลงสู่ระดับ 48.6 จุด ส่วนภาคการบริการก็อาจขยายตัวในอัตราชะลอลง หลังการระบาดของ COVID-19 นั้นเกิดขึ้นในหลายเมืองท่องเที่ยว โดยดัชนี PMI ภาคการบริการอาจลดลงสู่ระดับ 52.6 จุดคำพูดจาก ทดลองสล็อต ใหม่ล่าสุด
ส่วนในฝั่งยุโรป ตลาดมองว่า อัตราเงินเฟ้อทั่วไป CPI ของยูโรโซนอาจพุ่งขึ้นต่อเนื่องสู่ระดับ 9.0% ในเดือนสิงหาคม และอาจทำให้ธนาคารกลางยุโรป (ECB) อาจเดินหน้าเร่งขึ้นดอกเบี้ยในเดือนกันยายนได้
ขณะที่แนวโน้มค่าเงินบาท มองว่า เงินบาทยังคงเคลื่อนไหวผันผวนในกรอบกว้างและยังมีความเสี่ยงที่จะอ่อนค่าลงได้บ้าง หากเงินดอลลาร์ยังคงแข็งค่าขึ้น อย่างไรก็ดี มองว่า เงินบาทอาจยังไม่อ่อนค่าทะลุแนวต้านสำคัญแถว 36.50 บาทต่อดอลลาร์ไปได้ไกล (อนึ่ง หากเงินบาทอ่อนค่าทะลุโซนดังกล่าว แนวต้านถัดไปจะอยู่ในช่วง 36.75 บาทต่อดอลลาร์) เนื่องจากบรรดาผู้ส่งออกอาจรอขายเงินดอลลาร์ในโซนแนวต้านดังกล่าว อีกทั้ง ภาวะปิดรับความเสี่ยงในฝั่งตลาดหุ้นสหรัฐ และยุโรป ก็ไม่ได้กดดันให้นักลงทุนต่างชาติเทขายหุ้นไทยรุนแรง กลับกัน เรายังคงเห็นการทยอยซื้อสุทธิหุ้นไทยในจังหวะย่อตัวอยู่คำพูดจาก ทดลองปั่นสล็อต
อย่างไรก็ดี ควรระวังความผันผวนของเงินบาทในวันนี้ เนื่องจากมีรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญหลายอย่าง เริ่มจากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจจีน ซึ่งหากออกมาแย่กว่าคาดไปมาก ก็อาจสร้างแรงกดดันต่อสินทรัพย์ฝั่ง EM Asia หรือกดดันให้สกุลเงินฝั่ง EM Asia อ่อนค่า ตามเงินหยวนของจีนได้ ส่วนในช่วงตลาดรับรู้เงินเฟ้อของยูโรโซน เงินบาทก็อาจผันผวนตามเงินดอลลาร์ ที่อาจเผชิญแรงกดดันจากเงินยูโรได้ หากผู้เล่นในตลาดเริ่มมั่นใจแนวโน้มการเร่งขึ้นดอกเบี้ยของ ECB
อนึ่งในช่วงที่ตลาดการเงินผันผวนสูงและมีหลายปัจจัยที่ไม่แน่นอน โดยเฉพาะแนวโน้มนโยบายการเงินเฟด เราคงแนะนำให้ผู้ประกอบการควรใช้กลยุทธ์ป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนที่หลากหลายมากขึ้น โดยเฉพาะการใช้ Options ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันความเสี่ยงได้ดีในช่วงที่ตลาดผันผวนหนัก