“เอ็มจี” ค่ายรถยนต์จากแดนมังกร และถือว่าเป็นแบรนด์แรกที่เข้ามาปักธงรุกขยายตลาดในประเทศไทย การเข้ามาของรถยนต์จีนในครั้งนั้น ถือเป็นการสร้างจุดเปลี่ยนให้แก่อุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศไทยอย่างมาก เรียกว่าทำให้เกิดบรรทัดฐานใหม่อย่างต่อเนื่อง หากย้อนเวลาประเทศไทยไปสัก 10 ปีก่อนหน้า จากวันนั้นจนถึงวันนี้ ในอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย มีหลายสิ่งที่เปลี่ยนไปโดยแบรนด์รถยนต์จากประเทศจีน คือ ผู้เข้ามาเป็น Game Changer หรือ Changemaker ตัวจริง โดยเฉพาะการเป็นเจ้าแห่งเทคโนโลยีที่มาแรงในระดับโลก และก้าวกระโดดด้านงานดีไซน์
“เอ็มจี” เข้ามาทำตลาดในประเทศไทย ไม่ใช่แค่เข้ามาขายของ แต่สิ่งที่ตั้งใจ คือ นำเทคโนโลยีที่ใคร ๆ มองว่าเป็นไปไม่ได้ หรือยังไม่ถึงเวลา แต่ “เอ็มจี” สามารถทำให้เป็นไปได้ ไม่ว่าจะเป็น Sunroof ที่ไม่ต้องจำกัดอยู่ที่รถราคาแพงอีกต่อไป โดยเป็นครั้งแรกที่ Sunroof ถูกนำมาติดตั้งใน MG 3 จุดประกายให้เห็นว่า รถในกลุ่ม B-segment ยกระดับให้เกิดความแตกต่าง หรูหรา พรีเมียมในราคาที่คุ้มค่าซึ่งขณะนั้นยังไม่มีแบรนด์ใดใส่ Sunroof มาในรถยนต์ segment เดียวกัน
รถสีทูโทน อีกหนึ่งที่เปิดโลก และทำให้ตลาดรถยนต์เปลี่ยนไป ตอบโจทย์ของคนรุ่นใหม่ที่ต้องการความ “แตกต่าง” นั่นคือสิ่งที่ใช่และโดนใจที่สุด และ MG 3 ก็คือรถรุ่นแรกที่ฉีกแนวเข้ามาแนะนำตัวแบบทูโทน ในขณะที่ตลาดขณะนั้นยังนำเสนอแต่สีในแบบโมโนโทนเท่านั้น
เปิดตัวบริการ Mobile Service แบรนด์แรกในไทยในปี 2559 ให้สะดวกสบายและมั่นใจมากขึ้น เอ็มจีมองต่างจากใคร เมื่อไลฟ์สไตล์คนก้าวสู่ความเป็นดิจิทัลมากขึ้น เอ็มจีพร้อมยกระดับทั้งสินค้าและบริการ ให้ทันสมัยและเข้ากับพฤติกรรมคนไทยที่เปลี่ยนไป ไม่จำเป็นต้องไปศูนย์บริการ และพัฒนาต่อจนเป็น MG Passion Service
ระบบปฏิบัติการอัจฉริยะ i-SMART เชื่อมต่อให้ผู้ขับขี่สามารถเข้าถึงเทคโนโลยีอันล้ำสมัยภายในรถยนต์เอ็มจีได้อย่างสะดวกสบาย พร้อมเปิดตัวให้คนไทยได้สัมผัสเป็นที่แรกในช่วงปี 2560 กับระบบสั่งการ Voice Command เสียงภาษาไทย ให้การขับขี่สะดวกปลอดภัยไปอีกขั้นคำพูดจาก ฟรี เกมสล็อตทดลองเล่น
แล้ว รถยนต์ไฟฟ้า (อีวี) MG ZS EV ก็มา ยังมีราคาที่จับต้องได้ เข้าถึงง่าย ที่เปิดตัวในปี 2562 และ MG EP ในปี 2563 ซึ่งทำให้ได้เห็นและสัมผัสได้ว่า นวัตกรรมยานยนต์ที่ล้ำสมัยไม่ได้เป็นเรื่องไกลตัวของคนไทยอีกต่อไป สังคมอีวีเกิดขึ้นได้จริง มีรถอีวีวิ่งบนถนนในเมืองไทยหลายหมื่นคัน
ตามมาติด ๆ ได้ใช้จริง ยังต้องชาร์จได้จริง “สถานีชาร์จเร็ว โดยใช้ชื่อโครงการ “MG SUPER CHARGE” ที่เตรียมเอาไว้ล่วงหน้าทั้งร่วมกับพาร์ทเนอร์และกับดีลเลอร์ทั่วประเทศไทย เป้าหมายคือ เส้นทางการขับรถในประเทศไทยต้องมีจุดชาร์จไฟทุก ๆ 150 กิโลเมตร เพื่อทำให้ความกังวลเหล่านี้หมดไปจากลูกค้า EV ของเอ็มจี
เอ็มจียังได้ทำให้คนไทยสามารถเข้าใช้งานรถที่มีระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ Autonomous Level 2 ด้วยการใส่เทคโนโลยีที่ช่วยในการขับขี่อย่าง ADAS เข้ามาในรุ่นแรกอย่าง MG HS นอกจากนี้ ยังได้วิจัยและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง สรรหาเทคโนโลยีใหม่ ๆ แนะนำ AR Navigation ใส่มาให้เห็นเต็มตาใน MG HS และ MG HS PHEV ในปี 2565 และ NEW MG VS HEV รถไฮบริดที่ไม่ได้มีดีแค่ดีไซน์ที่สร้างการจดจำครั้งใหม่ และฉีกแนว ในราคาค่าตัวไม่ถึงล้าน
เทคโนโลยีความล้ำสมัยที่ เอ็มจี เติมเต็ม “กล้าคิด กล้าทำ กล้าให้” ได้ส่งต่อให้คนไทยครอบครองยานยนต์ที่ทันสมัย ราคาจับต้องได้ นั่นคือ ความคุ้มค่าที่แท้จริง ทลายข้อจำกัดที่ว่า ออปชั่นเทพ ๆ จับต้องได้ ไม่ต้องจ่ายหนัก การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นได้ยกระดับให้ประเทศไทยสามารถแข่งขันและก้าวทันการเปลี่ยนแปลงในตลาดโลกได้อย่างทัดเทียม และ เอ็มจี จะไม่หยุดยั้งการพัฒนา..เตรียมพบกับ…นวัตกรรมยานยนต์ล้ำ ๆ จากแบรนด์เอ็มจี…ได้อีกในเร็ว ๆ นี้.คำพูดจาก ทดลองสล็อต pg